[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by My Site Eaey 2013
๏ปฟ
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
เมนูหลัก
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
 
ลิงค์ที่เกี่ยวข้องภายนอก
e-Learning

หน่วยงานภายใน
ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ] | [ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด 2 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน
ข้อมูลข้อบัญญัติ 2557‏


  

   เว็บบอร์ด >> คุยกันสนุกๆ >>
  VIEW : 490    
โดย sbobetpg

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 1
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 1
Exp : 20%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 171.97.46.xxx

 
เมื่อ : อังคาร ที่ 5 เดือน ตุลาคม พ.ศ.2564 เวลา 16:58:28    ปักหมุดและแบ่งปัน

หากใครไม่ได้ดูเกมคู่ระหว่าง แมนฯยูไนเต็ด กับ บีญาร์เรอัล ผมอยากสรุปให้สั้นๆว่านี่คือการ “ปล้นชัย” ที่อุกอาจครั้งหนึ่งของโลกลูกหนัง ซึ่งก่อนหน้านี้ “ผีแดง” ที่นอกจากจะไม่แพ้คาบ้าน 3 นัดติดแล้วแต่กลับเล่นใหญ่กว่านั้นด้วยการแซงชนะ บีญาร์เรอัล ในนาที 90+5 ในแบบ “งง” กันทั้งโลก ไม่งงได้ยังไงล่ะครับ ในครึ่งแรก “เรือดำน้ำ” เล่นแบบ outclass และสมควรเดินเข้าห้องแต่งตัวพร้อมกับสกอร์นำซัก 4-5 ลูกด้วยซ้ำ  ดิโอโก้ ดาโลท์ เป็นบ่อที่ขุนพล “yellow submarine” มาช่วยกันขุดยิ่งกว่าบิทคอย กระชากหนีเป็นกรวยหลุดไปล่อเป้า 2-3 หน แถม ราฟาเอล วาราน ที่แฟนบอลอุ่นใจมากที่สุดกลับ “จั่วลม” ในตำแหน่ง “last man” แต่ดวงยังไม่ถึงฆาตที่ไม่เกิดประตูในจังหวะนี้ แต่เหตุการณ์เจียนอยู่เจียนไปหลายต่อหลายหนทำให้สนามเงียบกริบ ทุกคนรู้สึกได้ว่าทีมรักอาการน่าเป็นห่วงเมื่อทีมเยือนเฉียดเข้าใกล้กับคำว่าประตูเข้าไปทุกที ทุกคนแทบอยากร้องขอชีวิตให้จบครึ่งแรกซักที สีหน้าของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และ ยูเซน โบลท์ รวมถึงแฟนบอลที่กล้องแพนตอกย้ำให้เห็นถึงรูปเกมที่สู้กันไม่ได้เลย
 
ที่ตลกร้ายคือโอกาสที่ดีที่สุดของ ยูไนเต็ด ในครึ่งแรกเกิดขึ้นในนาที 43 และมาจากฝั่งตรงข้ามสร้างให้เองด้วยหลัง อัลแบร์โต้ โมเรโน่ และ เกโรนิโม่ รูญี่ ผู้รักษาประตูไม่เข้าใจกันจนเกือบ OG เพียงแค่นี้ก็ชี้ชัดให้เห็นว่าเกมของเจ้าถิ่นเน่าแค่ไหน speed บอลที่เชื่องช้า ,สถานการณ์ตัวตัวแทบผ่านไม่ได้ เป็นรองแทบทุกจุดของสนาม เซฟครั้งแล้วครั้งเล่าของ ดาบิด เด เกอา ที่ทำให้ “ปีศาจแดง” ตามหลังแค่ลูกเดียวส่งผลในบั้นปลายเป็น 3 แต้มแรกในเวที แชมเปี้ยนส์ลีก ทั้งๆที่อีกไม่กี่วินาทีพวกเขากำลังเป็น “บ๊วย” ของกลุ่มอยู่แล้ว ลูกยิงตามน้ำแบบไม่จับของ เดลเลส ในนาที 60 ทำให้ทรงบอลที่โหดๆของทีมเยือน “หงอย” แทบจะทันทีเพราะ อูไน เอเมรี่ หรือชื่อเก่าคือ อูนวย แกเปลี่ยนตัวกะรับเต็มตัวไม่สวนแล้ว ซึ่งตรงกันข้ามกับ ยูไนเต็ด ที่เหมือนเพิ่งตื่นหลัง เอดิสัน คาวานี่ ลงมาแทน เจดอน ซานโช่ และสร้างปัญหาให้ทีมเยือนด้วยลูกครอสจนเป็นที่มาของประตูชัยทดเจ็บ 90+5 ที่บ้าไปมากกว่านั้นประตูชัยเวลาบาปมาจาก 2 ตัวสำรองอย่าง เฟรด ที่แฟนบอลอยากตะโกนถาม “เฮียยิ้ม” ว่า***ส่งลงมาทำไมเป็นคน “เปิด” และ เจสซี่ ลินการ์ด แปะให้ โรนัลโด้ ยิงสนามแตก
ซึ่งเป็นเรื่องเหลือเชื่ออย่างมากที่จะเกิดขึ้น แต่ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะเป็นทีม ที่ชื่อว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เป็นได้ โดยก่อนจากกันเรามีสถิติบางส่วนที่น่าสนใจมากฝากกันทางเข้าแทงบอลออนไลน์
คริสติอาโน่ โรนัลโด้ (36 ปี 236 วัน) เป็นแข้ง “แก่สุด” เป็นอันดับ 2 ที่ยิงให้ แมนฯยูไนเต็ด ในเกมยุโรปที่ โอลด์แทรฟฟอร์ด โดยคนแรกเป็นลุงไบรอัน ร็อบสัน ที่ทำไว้ในเกมพบ กาลาตาซาราย เมื่อปี 1993 (36 ปี 282 วัน)

ดาวยิง โปรตุเกส ยังทำสถิติลงเล่นใน UCL มากที่สุด (178 นัด) แซงหน้า อิเคร์ คาซิญาส (177) ที่อยู่ยงคงกระพันมานาน โดย ลีโอเนล เมสซี่ คู่ปรับตามมาห่างๆ (155), ชาบี้ (151) และ ราอูล (142) อีกด้วย
หากครั้งหน้าเรามีสิ่งที่น่าสนใจหรือบทความดี ๆ เราจำนำมาฝากกันอีกเรื่อย ๆ นะครับ
 
สนับสนุนโดยเว็บไซต์ข่าวกีฬา https://www.sbobet24hr.club/